นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาสเพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ณ ห้องประชุมมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาระบบขนส่งทางราง โดยมีเป้าหมายในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อรองรับเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยวในภูมิภาค พร้อมส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

“วีริศ” เผยแผนเร่งพัฒนารถไฟทางคู่
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ซึ่งครอบคลุม 3 เส้นทางหลัก ได้แก่
- ช่วงชุมพร – สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร
- ช่วงสุราษฎร์ธานี – ชุมทางหาดใหญ่ – สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร
- ช่วงชุมทางหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร
ทั้งสามเส้นทางกำลังอยู่ระหว่างการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติโครงการต่อไป
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางหาดใหญ่ – สุไหงโกลก ระยะทาง 216 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันเป็นทางเดี่ยว การรถไฟฯ มีแผนพัฒนาเป็นทางคู่ โดยครอบคลุม 27 สถานี และจุดหยุดรถไฟ 8 แห่ง พร้อมสร้างย่านเก็บกองและขนถ่ายสินค้าที่สถานีนาม่วงและสถานีสุไหงโกลก ด้วยงบประมาณ 34,590 ล้านบาท
ยกระดับเศรษฐกิจ-คุณภาพชีวิตชายแดนใต้
นายวีริศกล่าวว่า การพัฒนารถไฟทางคู่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่ง ลดค่าใช้จ่ายการเดินทางของประชาชน และเชื่อมต่อการขนส่งระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายแดนใต้

“ท่านนายกฯ ได้สั่งการให้เร่งรัดโครงการให้เกิดความสะดวกและปลอดภัย รวมถึงส่งเสริมการขนส่งสินค้าเกษตร เพื่อเพิ่มโอกาสการส่งออกและรายได้ของเกษตรกรทั่วประเทศ” นายวีริศกล่าว
รัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะใช้ระบบขนส่งทางรางเป็นแกนหลักในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความยั่งยืนให้กับพื้นที่ชายแดนใต้ในระยะยาว
#นายกลงพื้นที่ #รถไฟทางคู่ #พัฒนาเศรษฐกิจใต้ #ขนส่งทางราง #นราธิวาส #ยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน #เศรษฐกิจชายแดนใต้ #การรถไฟแห่งประเทศไทย #พัฒนาชายแดนใต้ #เดินหน้าประเทศไทย #LogisticsBiznews