บีเอส กรุ๊ป เปิดโมเดลใหม่ Ecosystem Businesses ธุรกิจที่พึ่งพากันได้ วาง 5 เสาหลัก โลจิสติกส์ มาเก็ตเพลส ฟินเทค มาเก็ตติ้งออนไลน์ และ ดาต้าเซ็นเตอร์ เร่งสร้างความยั่งยืนองค์กร พร้อมปูทางเข้าตลาดหลักทรัพย์ปี 70
การมีหลายธุรกิจที่อยู่ในห่วงโซ่เดียวกัน และสามารถพึ่งพากันเชื่อมโยงกันได้ หรือ Ecosystem Businesses ระบบนิเวศน์ทางธุรกิจ กำลังกลายเป็นโมเดลที่หลายองค์กรให้ความสนใจ หากยกตัวอย่างบริษัทที่ประสบความสำเร็จในโมเดลของ Ecosystem Businesses ต้องยกให้ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอย่าง อาลีบาบา กรุ๊ป ที่มีถึง 5 ธุรกิจคอยเกื้อหนุนกัน

LOGISTICSBIZNEWS ได้คุยกับ ดร.ชุมพล สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเอส เอ็กซ์เพรส 2020 จำกัด ภายใต้กลุ่ม บีเอส กรุ๊ป ผู้ซึ่งกำลังนำ โมเดล Ecosystem Businesses เข้ามาพลิกโฉมธุรกิจขนส่งซึ่งเป็นธุรกิจเริ่มต้นในการสร้างความยั่งยืนเพื่อปูทางบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ต่อไป
ก่อนเข้าสู่ประเด็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ขององค์กร ดร.ชุมพล ได้เล่าถึงการทำธุรกิจขนส่งว่าตนเป็นเจเนอร์เรชั่นรุ่นที่ 3 ที่ทำธุรกิจต่อจากคุณปู่ และคุณพ่อ ธุรกิจแรกคือบีเอสขนส่ง ซึ่งเป็นการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ต่อมาในปี 2561 ได้เล็งเห็นถึงการเติบโตของการค้าทางออนไลน์ จึงได้ เปิดบริษัทบีเอส เอ็กซ์เพรส ขึ้น เน้นให้การส่งสินค้าออนไลน์ โดยให้บริการอย่างมีคุณภาพ และมาตรฐานระดับสากล จุดเด่นของ บีเอส เอ็กซ์เพรสคือการขนส่งสินค้าชิ้นใหญ่ที่มีน้ำหนักได้สูงถึง 125 กิโลกรัม ซึ่งแตกต่างจากส่งด่วนทั่วไป
ในยุคที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูงและการค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำธุรกิจเดียวย่อมมีความเสี่ยง ดร.ชุมพล กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนจึงมีแนวคิดในการจัดระบบนิเวศน์ทางธุรกิจหรือ Ecosystem Businesses ขึ้น โดยมี 5 เสาธุรกิจได้แก่ 1. โลจิสติกส์ 2.มาเก็ตเพลส 3.ฟินเทค 4.มาเก็ตติ้งออนไลน์ และ5. ดาต้าเซ็นเตอร์ สำหรับกลุ่มโลจิสติกส์ มี 2 บริษัทรองรับได้แก่ บีเอส ขนส่ง และบีเอส เอ็กซ์เพรส ส่วนในกลุ่มมาเก็ตเพลส ล่าสุดได้มีการตั้งบริษัท บีเอส เทรดดิ้ง ขึ้นเพื่อนำสินค้าของลูกค้ามาช่วยขายโดยผ่าน 3 ช่องทางได้แก่ ออนไลน์ ไดเร็กเซลล์ และเทเลเซลล์ โดยบริษัทจะช่วยด้านการตลาดและกระจายสินค้าผ่านกลุ่มโลจิสติกส์ซึ่งจะทำให้การขนส่งเพิ่มขึ้นด้วย ขณะนี้ได้ดำเนินงานไปแค่ 2 กลุ่ม คือกลุ่มโลจิสติกส์และมาเก็ตเพลส ในอนาคตถ้าสามารถทำให้ 5 กลุ่มธุรกิจแข็งแกร่งก็จะทำให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับอีก 3 กลุ่มธุรกิจที่ถูกวางไว้ ดร.ชุมพล กล่าวว่าในปี 2566 จะมีการดำเนินการอย่างแน่นอน ทั้งในกลุ่ม ฟินเทค มาเก็ตติ้งออนไลน์ และ ดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายที่ชัดเจน และขณะนี้ได้เสนอแผนการลงทุนแก่นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ตนมีข้อจำกัดในการเข้ามาบริหารอยากให้เข้ามาสนับสนุนแค่เงินลงทุนเท่านั้น

“ การวางโดเดลธุรกิจใหม่ สอดคล้องกับการเตรียมความพร้อมที่จะนำบีเอส กรุ๊ป เข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2570 ซึ่งข้อดีของการเข้าตลาดหลักทรัพย์ คือได้รับการยอมรับพิสูจน์ให้เห็นว่าเราเป็นมืออาชีพและทำให้ธุรกิจอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ สามารถระดมทุนได้ ซึ่งเป็นช่องทางหลักที่บริษัทที่ประสบความสำเร็จเลือกใช้กัน” ดร.ชุมพล กล่าว
ในส่วนของกลุ่ม ฟินเทค ที่มองว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายในการดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้ ดร.ชุมพล กล่าวว่าจะเริ่มสร้างฐานลูกค้าภายในจากกลุ่มมาเก็ตเพลส ที่มีอยู่แล้วก่อน ซึ่งเป็นลูกค้าที่ซื้อสินค้า มีการโอนเงิน เป็นช่องทางเอื้อให้คนเข้ามาใช้บริการก่อนในขั้นต้น และจากนั้นจะพิจารณาข้อมูลว่าใครบ้างที่เราสามารถให้บริการไมโครไฟแนนซ์ได้ และบริหารเวลาในการปล่อยยอดเงิน ต่อมาอาจจะสร้างพันธมิตรกับสถาบันการเงินหรือหน่วยงานที่คนมั่นใจในการทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งเราต้องสร้างความแข็งแรงภายในก่อนที่จะหาพันธมิตรทางธุรกิจ
ส่วนดาต้าเซ็นเตอร์ ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ ขณะนี้ได้มีการเริ่มวางโครงสร้างข้อมูล การเก็บข้อมูล การตั้งเป้า ซึ่งดาตาเซ็นเตอร์ จะมาสร้างประโยชน์ให้แก่กิจกรรมภายในกลุ่มก่อน ขณะที่ด้าน การตลาดออนไลน์ ต้องมีการกำหนดที่ชัดเจนว่ากลุ่มลุกค้าที่อยู่กับเราจะขายสินค้าอะไร กลุ่มเป้าหมายคือใคร ซึ่งเรามีข้อมูล ต้องมีที่ปรึกษานักพัฒนา ต้องมองให้ออกว่าจะจ้างใคร เพื่ออะไรและคุ้มค่าหรือไม่
ดร.ชุมพล กล่าวทิ้งท้ายว่า ปีนี้ตนได้เปลี่ยนแปลงหลัก 3 เรื่องได้แก่ระบบบริหาร จากการที่รวมศูนย์อยู่ที่ตน แต่ได้กระจายให้ผู้บริหาร ตนเป็นแค่ที่ปรึกษาดูนโยบาย งบการลงทุน 2. การขยายงานสร้างการเติบโต มีการระดมทุนให้นักลงทุนเข้ามามีส่วนร่วม 3.เปลี่ยนแปลงระบบงานใหม่ทั้งหมด โดยใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์วางแผน นำเทคโนโลยีมาใช้ ทำให้ระบบงานเป็นมืออาชีพมากขึ้น
ทั้งหมดคือแนวคิดและแผนธุรกิจที่น่าสนใจของ “ดร.ชุมพล สายเชื้อ”ที่พร้อมนำ บีเอส กรุ๊ป สู่โมเดลใหม่ Ecosystem Businesses เพื่อสร้างความพร้อมให้กลุ่มเติบโตอย่างยั่งยืนและเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ตามเป้าหมายที่วางไว้