“แสนสิริ “เปิดอะคาเดมี่สร้างความเท่าเทียมด้านฟุตบอล
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
เคียงข้างเยาวชนไทย พร้อมผนึกกำลัง นักกีฬามืออาชีพ จิตแพทย์ และนักโภชนาการ
ร่วมดูแลสุภาพกาย สุขภาพใจ ให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 อย่างมีคุณภาพ ผ่านแสนสิริ
อะคาเดมี่ ที่มุ่งฝึกเยาวชนได้เรียนรู้ทักษะพื้นฐานทางด้านฟุตบอลอย่างถูกต้อง
เท่าเทียม โดยไม่เสียค่าใช้ บ่มเพาะเยาวชนถึง 8,000 คน
พร้อมเสริมทัพด้วยการให้ความรู้ด้านสุขภาวะทางจิต (Mental Wellbeing) ในการดูแลสุขภาพกาย
สุขภาพใจ อย่างถูกต้อง
ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์
จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นกรมสุขภาพจิตและโฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า
ผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อเด็กและเยาวชนนั้น มีมากกว่าที่คาดถึง
เพราะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการในทุกด้าน ทั้งร่างาย จิตใจ สติปัญญา การเข้าสังคม
และการควบคุมอารมณ์ ซึ่งผลกระทบเหล่านี้จะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่
เช่นหากเด็กและเยาวชนมีร่างกายและจิตใจที่ไม่แข็งแรง
ก็จะทำให้มีผลกระทบต่อผลการเรียน และส่งผลต่อสภาพจิตใจ รวมถึงการทำงานในอนาคต
โดยงานวิจัยจากประเทศสิงคโปร์ ระบุว่า หากเยาวชนหลุดจากระบบการเรียน
หรือเรียนล่าช้าไป 1 ปี จะส่งผลเสียต่ออนาคตในช่วงวัยทำงาน
คือทำให้รายได้ขาดหายไปถึง 15%
ซึ่งปัญหารายได้น้อยย่อมนำไปสู่ปัญหาคุณภาพชีวิตด้านต่างๆ
ดังนั้นการให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพกายและสุขใจของเด็กและเยาวชนในช่วงนี้จึงมีความสำคัญมากเพราะจะส่งผลต่ออนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นอกจากนี้ในส่วนของผู้ปกครองก็ต้องปรับตัวเช่นกัน
เนื่องจากช่วงนี้เด็กและเยาวชนใช้เวลาที่บ้านเป็นส่วนใหญ่
ซึ่งทำให้เกิดความเครียดและความเบื่อหน่าย ผู้ปกครองจำเป็นจะต้องมีความรู้
ความเข้าใจในการใช้คำพูดที่เหมาะสม ส่งเสริมพลังบวก
เพื่อกระตุ้นให้เด็กเติบโตไปในทางที่ถูกต้อง เช่น การให้กำลังใจเด็กๆ
ในการฝึกกีฬาอยู่ที่บ้านนั้นอาจสร้างความเบื่อหน่ายให้กับเด็กๆ
ผู้ปกครองอาจจะต้องสื่อสารให้เด็กเข้าใจถึงเป้าหมายของการฝึก
และการปรับตัวโดยการเอาพลังที่มีอยู่มาปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่เพื่อพัฒนาศักภาพของตนเอง
อีกทั้งให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นว่าการฝึกแบบเดิมๆ
นั้นมีคุณค่ามากกว่าที่คิด
เพราะเราไม่รู้ว่าวันหนึ่งอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่สามารถฝึกได้เช่นเดิม
ซึ่งเหตุการณ์นี้จะทำให้เด็กตั้งใจฝึกมากยิ่งขึ้น
หากเราสามารถเข้าใจและสื่อสารได้ถูกวิธี
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคาดว่าสถานการณ์โควิด-19
มีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการระบาดของเชื้อโอมิครอน (Omicron) ที่พบว่ามีความรุนแรงน้อยลง
จึงมีโอกาสที่จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น แต่ทุกคนก็ยังต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา
และดูแลเด็กและเยาวชนให้ผ่านช่วงวิกฤตไปได้อย่างดี โดยเฉพาะเด็กอายุ 6-14 ปี
ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ทำให้มีโอกาสในการออกไปพบปะผู้คนน้อยมาก อย่างไรก็ตาม
ทราบว่าล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์สำหรับกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี
เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้
การนำกีฬาเข้ามาช่วยด้านการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจจึงเป็นเรื่องที่ดี
ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ซึ่งการที่ภาคเอกชนอย่างเช่นแสนสิริ
ที่หันมาให้ความสำคัญในด้านนี้ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง
นายสมัชชา พรหมศิริ Chief of Staff ฝ่ายกิจกรรมเพื่อสังคม
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การระบาดของโควิด-19
ไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงด้านสุขภาพของประชาชนและเศรษฐกิจโลกเท่านั้น
แต่ยังส่งผลต่อสุขภาวะทางจิต (Mental Wellbeing) ตลอดจนพัฒนาการของเด็กและเยาวชนในทุกด้าน
และเป็นเรื่องที่สังคมต้องร่วมกันตระหนักรู้
เพราะเด็กและเยาวชนเหล่านี้จะเติบโตและกลายเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนโลกของเราในอนาคต
ทั้งนี้จากรายงานล่าสุดขององค์การยูนิเซฟระบุว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19
ส่งผลกระทบต่อเด็กอย่างรุนแรงและกลายเป็นวิกฤตที่หนักหนาสาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์
75 ปี และกลายเป็นอุปสรรคฉุดรั้งความก้าวหน้าในหลายด้านที่สะสมมาหลายศตวรรษ
ทั้งด้านความยากจน สุขภาพ การเข้าถึงการศึกษา โภชนาการ การคุ้มครองเด็ก
และสุขภาพจิตของเด็ก ดังนั้นตลอดช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา
แสนสิริจึงได้ให้ความสำคัญกับการดูและเยาวชนมากเป็นพิเศษผ่านโครงการแสนสิริ
อะคาเดมี่ ที่แสนสิริก่อตั้งขึ้นมาในปี 2549
ด้วยวัตถุประสงค์ในการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคม มุ่งเน้นการสร้างคน
ส่งเสริมคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนอย่างยั่งยืน และเท่าเทียมกัน
ในด้านกีฬาและสุขภาพ
โดยเฉพาะการส่งเสริมการเรียนรู้พื้นฐานด้านกีฬาฟุตบอลอย่างถูกต้องโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ซึ่งปัจจุบันมีเยาวชนผ่านการบ่มเพาะถึง 8,000 คน มีสนามฝึกซ้อมทั้งสิ้น 5 สนาม
ได้แก่ สนามฟุตบอลปัญญาซอคเกอร์ปาร์ค สนามฟุตบอลอาม่าซ็อคเกอร์คลับ
สนามฟุตบอลศูนย์ฝึกกีฬา อ่อนนุช สนามฟุตบอล The Corner FC และสนามหน้าที่ว่าการอำเภอกระทู้
จ.ภูเก็ต
“เรามองว่าโควิดยังคงไม่จางหายไป
จึงได้มองหาแนวทางในการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้น
นอกเหนือจากการฝึกสอนในรูปแบบปกติที่เน้นเรื่องทักษะของฟุตบอล โดยเมื่อต้น ปี 2564
ได้มีการจัดทำโครงการเพื่อดูแลสุขภาวะทางจิต (Mental Wellbeing) อย่างเข้มข้น
โดยได้เชิญนักจิตวิทยาและนักโภชนาการมาให้ความรู้และส่งเสริมพัฒนาการให้กับเยาวชน
รวมถึงสร้างความรู้ความเข้าใจของผู้ปกครองในการปรับตัวต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยในปีหน้า (2565) ทางโครงการได้ขยายการให้ความรู้เหล่านี้ให้ครอบคลุมแบบ 360
องศา และคาดหวังว่าพันธมิตรในด้านต่างๆ ที่มีความสนใจในเรื่อง Well-being ของเด็กเข้ามาร่วมผลักดันโครงการให้ประสบความสำเร็จ
และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทยอย่างจริงจัง” นายสมัชชา กล่าว
ด้าน โค้ชรุ่ง – ใกล้รุ่ง ตรีจักรสังข์
ผู้ฝึกสอนจาก แสนสิริ อะคาเดมี่
อดีตนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยและอดีตผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า
“สำหรับการฝึกซ้อมเด็กๆ และเยาวชนของแสนสิริ อะคาเดมี่
ได้มีการพัฒนาและเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
เราพบว่าเยาวชนไทยมีศักยภาพในการเล่นกีฬาฟุตบอลทัดเทียมกับชาติอื่น
จึงจำเป็นจะต้องปูทักษะพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น
ฉะนั้นการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
อย่างไรก็ตามจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงเดือนมษายน 2564 เริ่มรุนแรงขึ้น
แสนสิริ อะคาเดมี่ จึงได้ปรับรูปแบบการฝึกซ้อมเข้าสู่โหมดออนไลน์
เนื่องจากต้องเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยและเว้นระยะห่างทางสังคม
โดยเน้นให้เด็กและเยาวชนได้ฝึกทักษะที่สามารถฝึกเองที่บ้านได้ ทั้งแบบเรียลไทม์
และผ่านการส่งคลิปวีดีโอจากโค้ชให้แก่เด็กๆ ใช้ในการฝึก
และอัดคลิปในการฝึกส่งมายังโค้ช เพื่อให้เกิดการพัฒนาทักษะที่ต่อเนื่อง
ซึ่งทางโครงการคาดว่าภายในต้นปีหน้า จะกลับมาเปิดทำการฝึกในรูปแบบปกติได้
เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้กลับมาฝึกซ้อมในสนามจริงอีกครั้ง”
ไม่มีความคิดเห็น